Last updated: 16 พ.ย. 2566 | 2071 จำนวนผู้เข้าชม |
จำได้ว่าความฝันแรกเริ่มของเราไม่ได้เฉียดหรือใกล้เคียงไปทางกฎหมายหรืออาชีพทนายความเลยแม้แต่น้อย เราเพิ่งมามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเรียนต่อและทำงานในสายงานกฎหมายหลังทำงานเป็นมนุษย์เงินมาแล้วเกือบสิบปี ด้วยเหตุปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทั้งการที่ได้มีโอกาสคลุกคลีกับเอกสารสัญญา การที่ได้เห็นความอยุติธรรมที่เกิดกับคนรอบ ๆ ตัว และที่เป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ทำให้เราตัดสินใจเด็ดขาดที่จะเรียนกฎหมายคือการที่เราถูกทนายความใช้วิชาชีพและความรู้ทางกฎหมายที่มีมาข่มขู่เราอย่างไม่ละอาย นับจากวันนั้นเราจึงตั้งปณิธานกับตนเองว่าเราจะเรียนกฎหมายและจะใช้ความรู้นี้ช่วยเหลือผู้ที่ไม่รู้กฎหมาย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของทนายตัวเล็ก ๆ คนนี้ (ตัวเล็กจริง ๆ นะ เชื่อสิ)
ทีแรกก็ไม่คิดหรอกว่าจะทำอาชีพทนายความ รู้แต่ว่าถ้าจะประกอบอาชีพในสายงานกฎหมาย ก็ต้องเรียนกฎหมาย เราจึงเรียนปริญญาตรีใบที่สองในสาขาวิชานิติศาสตร์ และเนื่องจากเราต้องทำงานไปด้วย เราจึงเลือกเรียนนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ซึ่งเป็นการเรียนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์เรามากที่สุด เราเป็นคนที่ชอบอ่านเองเรียนรู้เอง การที่จะต้องไปเข้าชั้นเรียนเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะกับเราเลย เวลาที่มีน้อง ๆ มาถามเราว่าควรจะเลือกเรียนที่ไหน เราจะตอบกลับไปเสมอว่า เลือกที่ที่เหมาะกับวิถีชีวิตตนเองดีที่สุด เพราะคุณจะไม่เครียด ไม่ต้องปรับเปลี่ยนเวลาหรือการใช้ชีวิตเพื่อการเรียน คุณจะสนุกกับการเรียนและเรียนจบได้ไม่ยาก
หลังจากมุ่งมั่นตั้งใจเรียนนิติศาสตร์เป็นปริญญาใบที่สองจนจบภายในสามเทอม สถานีต่อไปคือการสอบตั๋วทนาย ตั๋วทนายคือชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของใบอนุญาตให้เป็นทนายความ แต่ถ้าเรียกเต็ม ๆ ว่าใบอนุญาตให้เป็นทนายความมันก็จะยาวไม่ทันกิน ก็เลยเรียกตั๋วทนายกันจนติดปากเรื่อยมา แม้สภาทนายความจะออกมารณรงค์ให้เลิกใช้คำว่าตั๋วทนายก็ตาม แต่ทุกวันนี้ก็ยังเรียกใบอนุญาตให้เป็นทนายความว่าตั๋วทนายอยู่ดี ตั๋วทนายเปรียบเสมือนใบขับขี่ที่คนขับรถต้องมีทุกคน ทนายความก็เช่นกัน ไม่ใช่ว่าเรียนจบนิติศาสตร์แล้วจะสามารถเป็นทนายความได้ และการที่จะได้ตั๋วทนายก็ต้องไปอบรมและสอบให้ผ่านตามข้อกำหนดของสภาทนายความ ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบตั๋วทนายนั้นจะยกไปกล่าวถึงในบทต่อ ๆ ไป
กว่าจะอบรมและเก็บคุณสมบัติจนได้สอบผ่านก็ฟาดไปเป็นปี ใครที่สอบไม่ผ่านก็สามารถลงสอบใหม่ได้ เราเคยได้ยินว่าบางคนสอบเป็นสิบครั้งกว่าจะผ่าน นับถือในความพยายามของคนเหล่านั้นจริง ๆ เป็นเราอาจจะยกธงขาวยอมแพ้ตั้งแต่ครั้งที่สามก็เป็นได้ เราเองต้องบอกว่าไม่ใช่คนเก่ง แต่โชคดีที่มีเพื่อนดีประกอบกับจังหวะชีวิตที่เอื้ออำนวยทำให้สามารถสอบผ่านได้ในครั้งเดียว แต่ถึงจะสอบผ่านก็ยังไม่ได้ตั๋วนะ ต้องรอตรวจสอบคุณสมบัติอีกสองถึงสามเดือนจึงจะได้รับใบอนุญาตให้เป็นทนายความสมใจ แต่ถึงแม้จะได้ตั๋วทนายมาครอบครองแล้ว เส้นทางการเป็นทนายก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ใครที่คิดว่าได้ตั๋วทนายแล้วจะมีคดีพุ่งชน มีค่าว่าความงาม ๆ รออยู่ ขอบอกเลยว่าให้คิดใหม่ ทนายป้ายแดงบางคนผ่านไปสองสามปีก็ยังไม่เคยมีคดีความเข้ามาให้ทำเลยก็มี บางคนไม่กล้าว่าความ ไม่กล้าขึ้นศาล ไม่รู้ขั้นตอนกระบวนพิจารณาในทางปฏิบัติ ก็ได้แต่ถือตั๋วไว้ให้อายุตั๋วเพิ่มขึ้นแซงหน้าประสบการณ์ ผสมผสานกับวิธีการหาครุยเก่า ๆ มาใส่เพื่อให้ดูว่าเป็นทนายรุ่นเก๋าก็พอ จะกล้อมแกล้มให้ทนายป้ายแดงหน้าเด็กเกรงใจได้บ้าง
ฉะนั้น ในซีรีส์นี้เราจะเขียนเล่าประสบการณ์การเป็นทนายความหลังจากสอบได้ตั๋วทนายมาแล้วว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้คนที่กำลังคิดหรือสนใจที่จะประกอบวิชาชีพทนายความได้รู้ล่วงหน้าก่อนว่าจะต้องเจอกับอะไร จะได้รู้ว่าอาชีพทนายความในความเป็นจริงมันเหมือนกับที่คิดไว้หรือเปล่า หากไม่ใช่อย่างที่คิดจะได้ถอนตัวหรือเปลี่ยนเส้นทางทัน แต่ถ้าหากอาชีพทนายความคืออาชีพที่ “ใช่” ก็จะได้ใส่เกียร์หมา เอ๊ย เกียร์สามเดินหน้าเต็มกำลังสู่การเป็นทนายความเต็มตัว พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ