Last updated: 16 ต.ค. 2565 | 20697 จำนวนผู้เข้าชม |
#ควรฟ้องหรือไม่ฟ้อง
#ข้อคิดสำหรับเจ้าหนี้
เกิดเป็นเจ้าหนี้แท้จริงแสนลำบากเพราะทรัพย์ก็ออกจากกระเป๋าไปแล้ว ตามทวงไม่ใช่เรื่องง่าย
ทวงถามกันดีๆ ก็โดนลูกหนี้กวนเข้าให้
.
"ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย อยากได้ไปฟ้องเอา"
.
เจ้าหนี้จำนวนไม่น้อยมาถามว่า
"ฟ้องแล้วจะคุ้มไหม"
"ฟ้องแล้วจะได้ตังไหม"
เพราะการฟ้องใครสักคนมันต้องมีต้นทุน ทั้งเงินและเวลา ดังนั้นทนายจึงขอแนะนำหลักพิจารณาสำหรับเจ้าหนี้ว่าจะฟ้องลูกหนี้หรือไม่ โดยไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะยุยงส่งเสริมให้คนเป็นความกัน เพียงแต่เพื่อให้เจ้าหนี้ที่เป็นผู้เสียหายจากการถูกลูกหนี้เอารัดเอาเปรียบโดยการไม่จ่ายหนี้เลย
สิ่งที่เจ้าหนี้ควรพิจารณาว่าควรจะฟ้องลูกหนี้หรือไม่มีดังต่อไปนี้
#ยอดความเสียหาย
ถ้ายอดหนี้ต่ำกว่า ๑๐,๐๐๐ บาท ทนายแนะนำว่าไม่ควรฟ้อง คิดซะว่าทำบุญไปแล้วกัน เพราะค่าใช้จ่ายในการฟ้องมันก็จะปริ่มๆ ยอดหนี้แล้ว ไหนจะค่าธรรมเนียมศาล ๑,๐๐๐ บาท (คดีมโนสาเร่) ค่าส่งหมายประมาณ ๔๐๐-๑,๐๐๐ บาท ค่าทนายความซึ่งไม่เคยเห็นทนายคนไหนเรียกต่ำกว่า ๕,๐๐๐ บาท เพราะมันไม่คุ้มค่าน้ำมัน ต่อให้ทนายในพื้นที่ก็เรียกสูงกว่าห้าพันอยู่แล้ว เว้นแต่จะตกลงเรียกเป็นครั้ง แต่ทนายไม่แนะนำให้จ่ายเป็นครั้งๆ เพราะมีไม่น้อยที่เจ็บปวดกะค่าใช้จ่ายที่เมือ่คำนวณแล้วสูงกว่าเรียกค่าทนายแบบเหมา แต่เรื่องแบบนี้ก็แล้วแต่สะดวกค่ะ
ปกติเราจะไม่เรียกเป็นรายครั้งเพราะมันไม่คุ้มค่าน้ำมันค่าดำรงชีพค่ะ จะเรียกแบบเหมาแล้วดูแลจนจบคดีเลย
แต่ถ้ายอดหนี้รวมดอกเบี้ยแล้วสูงกว่า ๑๐,๐๐๐ บาท ก็คุ้มที่จะฟ้องร้องค่ะ
#พยานหลักฐาน
มีไม่น้อยที่มาปรึกษาว่ามีหนี้กันจริงแต่ไม่มีหลักฐานที่แน่นหนาพอ เช่นให้ยืมเงินกันปากเปล่า เพราะเชื่อใจ เพราะเป็นญาติกัน บ้างก็เก็บแต่สลิปไว้ ถ้ากรณีที่หลักฐานน้อย ไม่มีพยานรู้เห็นอะไรเลย สืบลำบากค่ะ ฟ้องไปก็อาจจะโดนทนายฝ่ายตรงข้ามสอยร่วงถูกยกฟ้องเปล่าๆ
แต่ถ้ามีการทำสัญญาหรือมีการเขียนหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร มีพยานรับรู้หรือมีข้อความแชทที่ชัดเจนพอว่าใครเป็นหนี้ใคร อันนี้เป็นพยานหลักฐานที่เพียงพอในการฟ้องคดีค่ะ
#สภาพของลูกหนี้
ลูกหนี้ทำงานอะไร
ลูกหนี้แต่งงานหรือยัง จดทะเบียนหรือไม่
มีทรัพย์สินอะไรบ้างที่พอทราบ เช่น บ้าน ที่ดิน รถ หุ้นฯ
ก่อนจะเป็นเจ้าหนี้ควรทำความรู้จักหัวนอนปลายเท้าลูกหนี้ไว้บ้าง ถ้าดูแล้วมีหลักมีฐาน ไม่ใช่พวกคนหลักลอย ฟ้องแล้วก็ยังพอมีหวังได้หนี้คืนค่ะ
แม้ฟ้องไปแล้ว ลูกหนี้จะดื้อไม่ยอมจ่าย เจ้าหนี้ยังถือคำพิพากษาไว้ได้ค่ะ แล้วให้ทนายออกหมายบังคับคดีภายในสิบปี เพียงเท่านี้ก็มีสิทธิตามหายึดอายัดทรัพย์ลูกหนี้ได้ตลอดค่ะ ถือคำพิพากษาไว้ไม่มีเสีย
ดีกว่าถือกระดาษสัญญาที่ไม่มีตราครุฑเอาไว้ เจ้าหนี้บางคนเหนียวค่าดำเนินคดี ยอมถือสัญญาไว้จนหมดอายุความ กระดาษที่ไม่มีตราครุฑนั้นก็ไม่ต่างกับกระดาษทิชชู่
....................................
#ปัญหาหนี้สินปรึกษาทนาย
#ทนายดิษญา
#เพจปรึกษากฎหมายกับทนายดิษญา