การฟื้นฟูกิจการสำหรับธุรกิจ SME

Last updated: 13 ม.ค. 2568  |  34 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ฟื้นฟูกิจการสำหรับธุรกิจ SME

การฟื้นฟูกิจการสำหรับธุรกิจ SMEs

ธุรกิจ SMEs หรือที่เรียกว่าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมนั้น มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อเศรษฐกิจเกิดภาวะชะงักหรือเกิดวิกฤติ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมย่อมได้รับผลกระทบอย่างมาก ดังนั้นกำหมายจึงเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ประสบปัญหาไม่สามารถชำระหนี้ได้หรือกิจการขาดสภาพคล่องสามารถยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการได้

 

การฟื้นฟูกิจการมีประโยชน์สำหรับธุรกิจ SMEs อย่างไร

1.     เมื่อศาลมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการลูกหนี้จะอยู่ในสภาวะพักชำระหนี้หรือ Automatic stay  เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้หรือยึดทรัพย์ลูกหนี้ระหว่างนี้ไม่ได้ เว้นแต่จะเป็นหนี้ที่ผู้บริหารแผนหรือลูกหนี้ก่อขึ้นนับตั้งแต่ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาล และหากหนี้นั้นผู้บริหารแผนไม่ชำระเจ้าหนี้ก็สามารถใช้สิทธิทางศาลฟ้องร้องได้

2.     คดีแพ่งที่เจ้าหนี้ฟ้องลูกหนี้จะต้องงดการพิจารณา หากมีการยึดทรัพย์ขายทอดตลาดก็ต้องงดการขายทอดตลาดนั้นไว้

3.     ส่วนผู้ให้บริการไฟฟ้า ประปา ไม่สามารถระงับการให้บริการได้ เว้นแต่ผู้บริหารแผนจะผิดนัดชำระ

4.     ลูกหนี้สามารถดำเนินกิจการต่อได้และสามารถขอสินเชื่อเพื่อการค้าตามปกติได้

 

ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ

กรณีธุรกิจ SMEs ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการได้แก่

1.   ลูกหนี้ ซึ่งอาจเป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัดหรือนิติบุคคลอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ที่มีการประกอบธุรกิจในลักษณะเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือจดทะเบียนกับหน่วยงานอื่นๆ ของภาครัฐ (ช่องทางการขึ้นทะเบียนเข้าไปที่เว็บไซต์ของ สสว. www.sme.go.th หรือสอบถามที่ สสว. call center 1301 )

2.   เจ้าหนี้ ก็สามารถเป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการได้เช่นเดียวกัน โดยจะเป็นเจ้าหนี้รายเดียวหรือหลายรายรวมกันก็ได้ โดยหนี้นั้นต้องเป็นหนี้ที่เกิดจากการดำเนินกิจการของลูกหนี้

 

ลักษณะของธุรกิจ SMEs

โดยแบ่งออกเป็น 1) ภาคการผลิตและ 2) ภาคการค้าและการบริการ และจะพิจารณาจากขนาดการจ้างงานและรายได้

วิสาหกิจขนาดย่อม

ภาคการผลิต : มีขนาดการจ้างงานไม่เกิน 50 คน  มีรายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาท

ภาคการค้าและการบริการ : มีขนาดการจ้างงานไม่เกิน 50 คน มีรายได้ไม่เกิน 50 ล้านบาท

วิสาหกิจขนาดกลาง

ภาคการผลิต : มีขนาดการจ้างงานไม่เกิน 200 คน มีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท

ภาคการค้าและการบริการ : มีขนาดการจ้างงานไม่เกิน 100 คน มีรายได้ไม่เกิน 300 ล้านบาท

หลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของธุรกิจ SMEs

1.     ลูกหนี้อยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้

2.     เป็นหนี้ที่เกิดจากการดำเนินกิจการ

3.     กรณีลูกหนี้เป็นบุคคลธรรมดาต้องมีหนี้จำนวนที่แน่นอนไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท

4.     กรณีที่ลูกหนี้เป็นคณะบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือนิติบุคคลอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงมีหนี้จำนวนที่แน่นอนไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท

5.     กรณีลูกหนี้เป็นบริษัทจำกัดมีหนี้จำนวนที่แน่นอนไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาทแต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท

6.     มีเหตุอันควรและมีช่องทางในการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ได้

ข้อสันนิษฐานว่าลูกหนี้ไม่อยู่ในสถานะที่จะสามารถชำระหนี้ได้

1.   ลูกหนี้มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน

2.   ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดหรือได้รับหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้จากเจ้าหนี้แล้วไม่ทำการชำระหนี้ภายใน 30 วัน

3.   ลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินที่จะให้เจ้าหนี้บังคับตามคำพิพากษาได้

4.   ลูกหนี้มีกระแสเงินสดไม่พอชำระหนี้

5.   ลูกหนี้มีพฤติการณ์ผิดนัดชำระหนี้เจ้าหนี้รายใดรายหนึ่งแล้วมีแนวโน้มว่าจะผิดนัดชำระหนี้กับเจ้าหนี้รายอื่นๆ

ขั้นตอนการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ

1.   ก่อนยื่นคำร้องต่อศาล ลูกหนี้และเจ้าหนี้ต้องทำความตกลงร่วมกันที่ให้ลูกหนี้ฟื้นฟูกิจการ โดยมีการประชุมเจ้าหนี้เพื่อทำแผนการชำระหนี้

2.   ในการประชุมจะต้องมีการจัดทำรายงานการประชุมซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่ประชุมเจ้าหนี้มีมติเห็นชอบกับแผนในสัดส่วน 2 ใน 3 ของจำนวนหนี้ทั้งหมด

3.   จัดทำคำร้องเพื่อยื่นต่อศาล โดยมีค่าธรรมเนียมศาล 1,000 บาท และเงินประกันค่าใช้จ่าย 10,000 บาท หากไม่วางเงินประกันศาลจะสั่งจำหน่ายคดี

4.   เมื่อยื่นคำรองขอแล้วจะถอนไม่ได้เว้นแต่ศาลจะอนุญาต หากศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผนแล้ว ศาลจะอนุญาตให้ถอนคำร้องขอไม่ได้

 

ขั้นตอนภายหลังศาลรับคำร้อง

1.   ศาลจะมีการไต่สวนคำร้องและมีคำสั่ง หากศาลสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผน ผู้บริหารแผนจะต้องดำเนินการตามแผนภายในระยะเวลาที่กำหนดไม่เกิน 3 ปี

2.   หากระยะเวลาตามแผนสิ้นสุดลงแล้วแผนฟื้นฟูสำเร็จ ศาลจะมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ แต่หากแผนยังไม่สำเร็จศาลจะมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผนหรือยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ

 

ผลของคำสั่งศาลที่เห็นชอบด้วยแผน

1.     แผนการฟื้นฟูที่เจ้าหนี้เห็นชอบด้วยนั้นย่อมผูกพันเจ้าหนี้ที่เข้าร่วมประชุมหรือลงมติหรือได้รับแจ้งให้เข้าร่วมประชุมเพื่อลงมติดังกล่าว

2.     ผู้ค้ำประกันหรือลูกหนี้ร่วมไม่หลุดพ้นความรับผิด ยังคงต้องรับผิดตามสัญญาเดิม

3.     กรณีศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ เจ้าหนี้และลูกหนี้ยังคงต้องผูกพันตามแผนต่อไปจนกว่าจะดำเนินการตามแผนเสร็จ

4.     กรณีศาลมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผนหรือมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ ลูกหนี้หรือผู้บริหารของลูกหนี้กลับเข้ามามีอำนาจในการบริหารจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ตามเดิม

 

 ปรึกษาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการติดต่อ 092-568-1666 หรือ chandislaw@gmail.com

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้