แม่เลี้ยงเดี่ยวต้องรู้ 3 วิธีทำให้ลูกเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของพ่อ

แม่เลี้ยงเดี่ยวควรรู้3วิธีทำให้ลูกเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของพ่อ

การเป็นแม่นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวนั้นยิ่งยากขึ้นอีกเท่าตัว การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวนั้นอาจมีที่มาหลากหลาย แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรลูกก็ควรจะมีสิทธิตามกฎหมาย (แม้จะเป็นบุตรนอกกฎหมายของบิดาก็ตาม) บุตรนอกสมรสมีสิทธิไม่ต่างจากบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น สิทธิในการได้รับอุปการะเลี้ยงดูจากพ่อแท้ๆ สิทธิในการรับเงินสงเคราะห์จากหน่วยงานต่าง ๆ ในฐานะทายาทผู้ตาย และสิทธิในการรับมรดก เป็นต้น  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกฎหมายวางเงื่อนไขไว้ว่าบิดาจะต้องมีพฤติการณ์รับรองโดยพฤตินัยว่าเด็กนั้นเป็นลูกของตนหรือจดทะเบียนรับรองบุตรตามกฎหมายเสียก่อนเด็กนั้นจึงจะมีสิทธิเช่นเดียวกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย

การที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวนิ่งเฉยปล่อยให้ลูกอยู่ในสถานะบุตรนอกกฎหมายนั้นจะทำให้เด็กเสียสิทธิอันจะพึงมีตามกฎหมาย ดังนั้น คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงควรทราบว่าวิธีการที่จะทำให้ลูกน้อยของตนเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดาอันจะทำให้ลูกของตนนั้นมีสิทธิตามกฎหมาย มีอยู่ด้วยกัน 3 วิธีด้วยกัน ได้แก่

วิธีที่ 1 จดทะเบียนสมรสกับพ่อของเด็ก ซึ่งวิธีการนี้เรียบง่าย แต่ไม่ง่ายสำหรับคู่รักที่มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์จนไม่อาจอยู่ร่วมกันได้

วิธีที่ 2 บิดาจดทะเบียนรับรองบุตร กรณีที่บิดายินยอมและเต็มใจในการรับเด็กเป็นบุตรของตน โดยบิดาสามารถยื่นขอจดทะเบียนรับรองบุตรได้ที่สำนักเขตหรืออำเภอตามภูมิลำเนาของตน แต่ส่วนมากมักจะหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธที่รับว่าเด็กนั้นเป็นบุตร จึงต้องใช้วิธีการที่สามนั่นคือ

วิธีที่ 3 มารดาฟ้องศาลขอให้ศาลสั่งว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งกรณีนี้สามารถฟ้องเรียกค่าอุปการะไปพร้อมกันได้เลย แต่การฟ้องเรียกค่าอุปการะนั้นมีอายุความ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่แม่จ่ายค่าเลี้ยงดูลูกไปฝ่ายเดียว หรือจะพูดง่ายๆ คือเรียกย้อนหลังได้ไม่เกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่จ่ายค่าเลี้ยงดูไปนั่นเอง

        ซึ่งการฟ้องกรณีนี้มักจะคิดกันไปเองว่าฟ้องแล้วไม่ได้อะไรนอกจากกระดาษแผ่นเดียวเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องนัก เนื่องจากคดีครอบครัวเมื่อศาลมีคำพิพากษาให้จำเลย (พ่อของเด็ก) จ่ายค่าอุปการะ ศาลก็อาจจะสั่งให้ลูกหนี้นำเงินมาวางศาลหรือหากลูกหนี้นั้นมีงานประจำศาลก็อาจให้มีการอายัดเงินเดือนตามจำนวนที่ต้องจ่ายตามคำพิพากษามาวางไว้ที่ศาล หรือศาลอาจออกหมายเรียกตัวลูกหนี้มาสอบถามสาเหตุ รวมถึงกักขังลูกหนี้ได้กรณีที่ลูกหนี้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาล

        ดังนั้นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแม้จะมั่นใจว่าตนเองสามารถดูแลเลี้ยงดูให้ลูกน้อยเติบโตได้เพียงลำพัง แต่ก็อย่าลืมว่าบุตรนั้นย่อมมีสิทธิตามกฎหมาย หลายกรณีที่ผู้ปกครองของบุตรละเลยไม่ทำให้ถูกต้องจนเวลาผ่านไปบุตรนั้นบรรลุนิติภาวะ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่บุตรจะต้องใช้สิทธิของตนตามกฎหมายต่อบิดากลับไม่สามารถทำได้ทำให้เสียเวลาและเสียสิทธิไปอย่างน่าเสียดาย คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจึงต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ให้รอบคอบ

 

#ปรึกษาเรื่องการคุ้มครองสิทธิของบุตรนอกสมรส