Last updated: 14 ก.ย. 2566 | 19712 จำนวนผู้เข้าชม |
ครอบครองที่ดินของบุคคลอื่นเกิน 10 ปี อยากเปลี่ยนชื่อในโฉนดมาเป็นของตนต้องทำอย่างไร
หลักกฎหมายที่ต้องทราบเรื่องการครอบครองปรปักษ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 บัญญัติว่า
"บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้ด้วยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์"
หากคุณครอบครองทำกินอยู่บนที่ดินที่ผู้อื่นมีกรรมสิทธิ์อยู่ (หากมีเพียงสิทธิครอบครองหรือใช้ประโยชน์จะไม่เข้าข้อกฎหมายนี้) เป็นระยะเวลาเกินกว่า 10 ปี แล้วประสงค์จะขอเปลี่ยนชื่อในโฉนดมาเป็นของตนเองจะทำได้ แต่ไม่สามารถเดินไปที่สำนักงานที่ดินแล้วขอเปลี่ยนชื่อได้ทันทีแต่จะต้องดำเนินการร้องขอต่อศาลเสียก่อน ให้ศาลมีคำสั่ง จากนั้นจึงนำคำสั่งศาลนั้นไปขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อในโฉนดมาเป็นของตนได้ โดยสามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
เก็บรวบรวมหลักฐาน
ขั้นตอนนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก การจะร้องขอต่อศาลกรณีครอบครองปรปักษ์นั้นจะต้องมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคุณได้ครอบครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินของผู้อื่นติดต่อกันเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 10 ปี โดยสงบเปิดเผยและโดยเจตนาเป็นเจ้าของ แต่หากคุณครอบครองที่ดินผู้อื่นโดยอาศัยการเช่าหรือการอนุญาตของเจ้าของที่ดิน ก็ไม่เข้าหลักเกณฑ์การครอบครองปรปักษ์ แม้จะอยู่อาศัยหรือใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นนานเท่าไรก็ตาม ก็ไม่ทำให้คุณได้สิทธิในที่ดินดังกล่าวโดยการครอบครองปรปักษ์
หลักฐานที่จำเป็น อาทิ หลักฐานการชำระภาษีที่ดิน การขอบ้านเลขที่ การขอน้ำประปาการขอไฟฟ้า การเสียค่าน้ำหรือค่าไฟ การปลูกบ้าน การใช้ประโยชน์ในที่ดิน เป็นต้น นอกจากนั้นบุคคลก็สามารถเป็นพยานรับรองถึงการเข้ามาใช้ประโยชน์ในที่ดินของคุณได้ อาทิ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เพื่อนบ้าน เป็นต้น
แต่งตั้งทนายความ
เมื่อคุณรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว จำเป็นที่จะต้องแต่งตั้งทนายความที่คุณไว้วางใจให้ดำเนินการในชั้นศาลโดยการยื่นคำร้อง
หากไม่มีผู้ใดคัดค้าน ศาลก็จะพิจารณาหลักฐานแล้วมีคำสั่งให้คุณมีสิทธิในที่ดินผืนนั้น คุณสามารถนำคำสั่งศาลไปจดทะเบียนกับเจ้าหน้าที่เพื่อเปลี่ยนแปลงชื่อในโฉนดมาเป็นชื่อของคุณต่อไปได้ แต่หากมีผู้คัดค้านว่ามีสิทธิดีกว่าหรือเจ้าของที่ดินคัดค้านเข้ามาในคดี คำร้องของคุณก็จะเป็นคดีที่มีข้อพิพาท จะต้องมีการสืบพยานตามขั้นตอนต่อไป
ไต่สวนคำร้อง
ในการไต่สวนคำร้อง หากศาลเห็นว่าการครอบครองที่ดินของคุณเป็นไปตามองค์ประกอบของข้อกฎหมายตามที่กล่าวมาข้างต้น คือ 1.ครอบครองที่ดินของผู้อื่น 2. ครอบครองโดยมีเจตนาเป็นเจ้าของ 3. ครอบครองโดยสงบและเปิดเผย 4. เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 10 ปี ก็จะมีคำสั่งให้คุณได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน คุณจึงสามารถนำคำสั่งไปยื่นจดแจ้งเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนต่อไปได้
นำคำสั่งไปจดทะเบียน
เมื่อเสร็จสินกระบวนการทางศาลหรือคดีถึงที่สุด คุณสามารถนำคำสั่งศาลไปจดแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางทะเบียนได้ เอกสารที่ต้องใช้มีสองอย่าง คือ คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาล และหนังสือรับรองคดีถึงที่สุด
ประเด็นปัญหาต่อไปคือ กรณีครอบครองที่ดินบางส่วนหรือได้กรรมสิทธิ์มาไม่เต็มโฉนด หากผู้ได้กรรมสิทธิ์มาโดยการครอบครองปรปักษ์ได้สิทธิ์มาเฉพาะส่วน พนักงานเจ้าหน้าที่จะทำการสอบข้อเท็จจริงทุกฝ่ายก่อน ทั้งฝ่ายเจ้าของและผู้ได้กรรมสิทธิ์ว่ายินยอมให้ผู้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์เข้ามามีชื่อร่วมในโฉนดที่ดินนั้นหรือไม่และส่วนใด แต่หากตกลงกันไม่ได้ พนักงานเจ้าหน้าที่จะจดทะเบียนให้ผู้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์มีกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนที่ตนเองครอบครอง
.....................................
ปรึกษาเกี่ยวกับการร้องครอบครองปรปักษ์
แอดไลน์ที่ปรึกษากฎหมายได้โดยการสแกนคิวอาร์โค้ด